9.7.55

การป้อนยาสุนัข

การป้อนยาเม็ดโดยการใส่ปากและไปวางบริเวณโคนลิ้นก็จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่เจ้าของควรเรียนรู้ไว้ โดยมีวิธีที่ถูกต้องดังนี้ครับ

 1. ใช้มือข้างหนึ่งเปิดปากสุนัข
2.ใช้มืออีกข้างหนึ่งวางยา ลงบนด้านในบริเวณโคนลิ้น
3.ปิดปากสุนัขและใช้มือ ลูบคอสุนัข
4.เมื่อสุนัขเลียปาก แสดงว่าได้กลืนยาลงกระเพาะอาหารแล้วเมื่อสุนัข เลียปากแล้ว แสดงว่า สุนัข กลืน เม็ดยา ลงสู่กระเพาะอาหารแล้ว
5.หลัง สุนัข กลืน ยา ลงไปแล้ว อาจชมเชยสุนัข ด้วย คำพูด  เก่งมาก ดี มาก  เด็กดี  เป็นต้น


การป้อนยาน้ำให้สุนัขนั้น มีวิธีที่ถูกต้องดังนี้
1. เขย่าขวดยาและดูดยาตามปริมาณที่สัตวแพทย์สั่งไว้หน้าขวด โดยใช้กระบอกฉีดยา (ไซริงค์) ในการดูดยาการป้อนยาน้ำให้สุนัข
2.จับหน้าสุนัข เงยหน้าขึ้น
3.ใส่ไซริงค์ เข้าไปบริเวณ กระพุ้งแก้ม (ด้านข้างของปาก   ให้ไซริงค์อยู่ระหว่าง บริเวณ ฟัน และ ริมฝีปาก)
4. ค่อยๆ ดัน ก้านไซริงค์  เข้าไป  ให้ ยา เข้าไป   ไม่ควรดัน ยาเข้าไปเสียทีเดียว สุนัข อาจสำลักได้ เพราะ กลืนยาไม่ทัน ต้อง ค่อยๆ ทำ ระมัดระวัง

เคล็ดลับตัดเล็บน้องหมา


            
            ในเมื่อเล็บของน้องหมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยาว ความท้าทายในการตัดเล็บให้กับสุนัขเลยตกมาอยู่ที่เจ้าของอย่างเรา ครั้นถ้าปล่อยไว้อย่างนั้นก็จะสร้างความเจ็บปวดให้เจ้าตูบมากมายนัก เพราะเล็บที่ยาวมากๆจะแทงเข้าไปในเนื้อเท้าของสุนัข ซึ่งนั่นจะทำให้เจ้าตูบมีปัญหาในการเดินตามมา   ขณะเดียวกันเจ้าของบางคนก็ยุ่งกับภารกิจต่างๆจนมองข้ามความยาวของเล็บ ลืมไปเลยว่าน้องหมาก็เล็บยาวกับเขาได้ด้วยเหมือนกัน แต่ครั้นเราจะไปตัดเล็บให้ เจ้าตูบก็ทำท่ารังเกลียดรังงอน แต่ปัญหาดังกล่าวจะหมดไปด้วย 9 เคล็ดลับที่ทำให้การตัดเล็บน้องหมาเป็นของง่าย



หนึ่ง
ตรวจความยาวของเล็บน้องหมาเป็นประจำทุกสัปดาห์ ถ้าเห็นว่าเริ่มยาวแล้ว คุณก็ควรลงมือตัดให้เขาทันที ทำให้การตัดเล็บเป็นสิ่งที่เขาเคยชิน เป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับเขา
สอง
ยิ่งคุณเริ่มต้นตัดเล็บให้สุนัขตั้งแต่เขาอายุน้อยเท่าไหร่ ยิ่งเป็นเรื่องดี โดยคุณอาจจะเริ่มจากการจับเท้าของเขา นวดเล็กน้อย ให้เขาเคยชินกับการถูกจับเท้า จากนั้นอาจจะให้ขนมเป็นรางวัลเมื่อเขาทำตัวดียามที่เราจับเท้าของเขา แล้วถึงค่อยลงมือตัดเล็บให้ ยิ่งเราเริ่มต้นไว ความกลัวของเขาที่มีต่อการตัดเล็บก็จะลดลงตามไปด้วย
สาม
ในการตัดเล็บให้สุนัขคุณต้องทำอย่างช้าๆ และทำอย่างนิ่มนวล
สี่
เรียนรู้โครงสร้างของเล็บ ว่าส่วนไหนมีเลือดไปหล่อเลี้ยง ตรงไหนตัดได้ตรงไหนตัดไม่ได้ ถ้าเล็บของสุนัขของคุณขาวสะอาด จะเห็นได้ชัดเลยว่าตรงพื้นที่สีชมพูนั้นเป็นส่วนที่ไม่ควรตัด
ห้า
ก่อนที่จะลงมือตัดคุณต้องดูก่อนว่า ควรตัดเล็บยาวขนาดไหน หลักการง่ายๆก็คือ ตัดส่วนที่โค้งลงมา ไม่ควรให้ส่วนที่โค้งลงมาอยู่ใกล้กับอุ้งเท้ามากจนเกินไป ถ้าน้องหมาเดินแล้วเล็บมีเสียงกระทบพื้นก็ควรตัดส่วนที่กระทบพื้นออก
หก
เริ่มต้นในการตัด สุนัขบางตัวชอบและมีความสุขที่จะนั่งอยู่บนตักของคุณในขณะที่คุณตัดเล็บให้เขา คุณอาจจะนั่งลงบนพื้นแล้วอุ้มน้องหมามานั่งบนตัก แต่สุนัขบางตัวก็อาจจะไม่ชอบวิธีการนั้น คุณก็ลองเปลี่ยนโดยอุ้มเขาไปวางบนโต๊ะ แล้วคุณก็นั่งลงที่เก้าอี้ ข้อสำคัญที่สุดก็คือ ต้องตัดให้ห่างจากพื้นที่สีชมพูสักเล็กน้อย
เจ็ด
ทำให้น้องหมาชินกับเครื่องลับเล็บ ทำให้มันเป็นประสบการณ์ที่ดี อาจจะนำที่ตัดเล็บไปวางไว้ใกล้เขา ให้เขาเดินมาดู ทำแบบนี้สักระยะ ก่อนที่คุณจะเปิดเครื่อง
แปด
หลังจากน้องหมาเริ่มคุ้นหน้ากับเครื่องลับเล็บแล้ว คราวนี้คุณก็ลองเปิดเครื่อง ให้สุนัขคุ้นเคยกับเสียงและอาการสั่นของเครื่อง ทำแบบนี้สักระยะจนน้องหมาชิน จากนั้นถึงลงมือลับเล็บให้กับเขา
เก้า
เมื่อน้องหมาชินกับที่ตัดเล็บและเครื่องลับเล็บแล้ว เมื่อคุณลงมือทำ คุณต้องใช้เครื่องมือดังกล่าวโดยตัดหรือลับเล็บในมุม 45 องศา
           ผ่านไปแล้วกับเคล็ดลับทั้ง 9 ข้อในการทำให้การตัดเล็บน้องหมาเป็นเรื่องง่าย เราหวังว่าต่อไปนี้เจ้าตูบของคุณผู้อ่านคงมีเล็บที่สั้น เดินสบายเท้า และสนุกไปกับการตัดเล็บเท้า ไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวหรือไม่ชอบอีกต่อไป

พัฒนาการของเจ้าตูบน้อย


         เมื่อน้องหมาที่เลี้ยงไว้ได้ให้กำเนิดสมาชิกใหม่ของบ้าน เจ้าของส่วนใหญ่มักจะมีความกังวลเกิดขึ้นต่าง ๆ นานา เข่น เมื่อไหร่จะลืมตา เมื่อไหร่จะเริ่มเดินได้ เค้าจะหย่านมเมื่อไหร่ เค้านอนมากไปไหมหรือว่าจะไม่สบาย เป็นต้น งั้นเราลองมาดูกันว่า ลูกสุนัขที่เกิดใหม่นั้น จะมีพัฒนาการอย่างไรบ้าง

   
          ลูกสุนัขที่เกิดใหม่จะยังไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ตาและหูยังคงปิด เค้าจึงต้องอาศัยการเลี้ยงดูจากแม่ระยะหนึ่งจึงจะมีพัฒนาการเพิ่มเติมจนสามารถใช้ชีวิตตามลำพังได้ ซึ่งพัฒนาการของลูกสุนัขโดยปกติจะแบ่งเป็น 4 ช่วงด้วยกันนะคะ คือ
1. Neonutal period เป็นช่วงเวลา 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด ระยะนี้เจ้าตูบน้อยของเราจะมีพฤติกรรมที่สำคัญ คือ กินและนอนค่ะ โดยจะใช้เวลาเกินมากกว่า 30% และที่เหลือคือเวลานอน ซึ่งการนอนจะมีลักษณะจำเพาะ คือมีการกระตุกของกล้ามเนื้อหรือมีการสั่นเป็นระยะ ๆ (เจ้าของไม่ต้องตกใจนะคะ) การขับถ่ายจะถูกกระตุ้นโดยการเลียจากแม่ และเค้ายังใช้ขาไม่ได้ จะคลานเป็นส่วนใหญ่
2. Transitionul period เป็นระยะที่ลูกสุนัขอายุประมาณ 3 สัปดาห์ ลูกสุนัขจะเริ่มพึ่งตัวเองมากขึ้น มีพฤติกรรมของตัวเอง ตาและหูทำงานได้ดีขึ้น (เจ้าตูบมักจะลืมตาเมื่อเข้าสู่ระยะนี้นะคะ) สามารถคลานถอยหลังได้ และเริ่มเดินมากกว่าคลาน
3. Socialization period คือช่วงที่เจ้าตูบมีอายุระหว่าง 4-10 สัปดาห์ เริ่มมีฟันน้ำนมขึ้นและสามารถขบกัดได้ ดังนั้นจึงมักจะหย่านมในระยะนี้นะคะ พฤติกรรมที่สำคัญในช่วงนี้คือพฤติกรรมการเล่น ทำให้ลูกสุนัขเกิดการเรียนรู้ การทำความรู้จักตลอดจนการจัดลำดับในสังคม โดยการเล่นนี้จะมีแม่สุนัขคอยควบคุมดูแล ดังนั้นหากต้องการจะหาบ้านใหม่ให้กับลูกสุนัขโดยที่เค้าต้องแยกจากแม่ แนะนำว่าให้พ้นระยะนี้ไปก่อน เพื่อที่ลูกสุนัขจะได้เป็นเด็กดีเพราะได้เรียนรู้พฤติกรรมที่เหมาะสมจากแม่ และอีกเหตุผลคือ เค้าได้หย่านมแล้วด้วย
4. Juvenile period ระยะนี้เริ่มเมื่อลูกสุนัขอายุ 10 สัปดาห์ จนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์คืออายุประมาณ 6 เดือน น้องหมาจะมีพัฒนาการทางด้านกล้ามเนื้อหรือความสามารถในการเคลื่อนไหวมากขึ้น ลูกสุนัขเพศผู้ที่อายุมากกว่า 4 เดือน จะเริ่มให้ความสนใจต่อสุนัขเพศเมียที่เป็นสัด แต่จะสามารถผสมได้จริงเมื่ออายุประมาณ 7-8 เดือน ส่วนในเพศเมียนั้นการแบ่งแยกระยะนี้กับระยะโตเต็มวัยที่ชัดเจน คือ การเป็นสัดครั้งแรกค่ะ
             ทีนี้เราก็ได้รู้ถึงพัฒนาการคร่าว ๆ ของเจ้าตูบน้อยกันไปแล้ว หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับเจ้าของในการดูแลสมาชิกใหม่ให้มีการพัฒนาการที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อการเติบโตเป็นน้องหมาที่น่ารักในอนาคต

3.7.55

การดูแลลูกสุนัข



การดูแลลูกสุนัขช่วงตั้งแต่แรกเกิด
 การดูแลลูกสุนัขช่วงตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 21 วัน เป็นช่วงสำคัญมากต้องให้การบำรุงดูแลลูกสุนัข
ลูกสุนัขจะเจริญเติบโตสมบูรณ์แข็งแรง หรืออ่อนแอตายไปก็ช่วงอายุนี้ เราอาจจะแบ่งแยกการเลี้ยงดูลูกสุนัขเป็นช่วงอายุ ดังนี้
ช่วงอายุแรกเกิดถึง 7 วันแรก
ในระยะ 7 วันแรกนี้ ถ้าลูกสุนัขออกมาจำนวนไม่มาก และสมบูรณ์เท่ากันทุกตัว เจ้าของคงไม่ต้องดูและอะไรให้ยุ่งยาก เพราะเป็นหน้าที่ของแม่สุนัขที่คอยให้ลูกได้กินนม 
แต่ถ้าลุกสุนัขออกมาจำนวนมาก มีตัวใหญ่บ้าง ตัวเล็กบ้าง แข็งแรงไม่เท่ากัน เจ้าของต้องให้การดูแลเป้นสิ่งสำคัญ ลูสนัขที่ไม่แข็งแรง ตัวเล็กกว่า จะเสียงต่อการสูญเสีย ถ้าแม่สุนัขเลี้ยงลูกเก่ง เจ้าของก็เบาใจ       แต่ถ้าแม่สุนัขเลี้ยงลูกไม่เป็น เจ้าของต้องมีหน้าที่คอยดูแลจับลูกสุนัขให้กินนมแม่ และคอยระวังไม่ให้แม่นอนทับลูก
อาหาร
อาหารช่วงแรกเกิดถึง 7 วัน คือนมจากแม่สุนัข ซึ่งมีประโยชน์สูงสุดมีคุณค่ามาก โดยเฉพาะ 2 - 3 วันแรก แม่สุนัขจะมีนมเหลือง ควรพยายามให้ลุกสุนัขได้กินนมเหลืองจากแม่สุนัข
แม่สุนัขที่มีน้ำนมมากพอต่อลูกสุนัขทุกตัว สังเกตได้ว่าลูกสุนัขจะอ้วนท้วนสมบูรณ์แข็งแรงทุกตัว แต่ถ้าแม่สุนัขไม่มีน้ำนมเพียงพอ เจ้าของต้องป้อนนมเสริมให้ลูกสุนัข เช่น นมแพะยี่ห้อฮันนี่ หรือเอสบิแลค (ราคาแพงมาก) มีทั้งชนิดเป็นน้ำและเป็นผง
อัตราการให้นมลูกสุนัข มากน้อยขึ้นกับน้ำหนักตัว 
 อายุ 2 วัน ให้นม 15 ซีซี หรือครึ่งออนซ์ต่อครั้งทุก 3 ชั่วโมง
อายุ 2 วัน ให้นม 15 ซีซี หรือครึ่งออนซ์ต่อครั้งทุก 3 ชั่วโมง
อายุ 3 - 4 วัน ให้นม 20 ซีซี หรือ 2 ใน 3 ออนซ์ ให้ทุก 3 - 4 ชั่วโมง
อายุ 5 - 7 วัน ให้นม 30 ซีซี หรือ 1 ออนซ์ให้ทุก 4 ชั่วโมง
ค่อยๆ เพิ่มจำนวนนมที่ป้อนลูกสุนัขที่กินแต่ละวัน
ระยะนี้ที่เป็นอันตรายต่อลูกสุนัข คือ น้ำนมเป็นพิษ ถ้าพบว่าแม่สุนัขน้ำนมเป็นพิษ เมื่อลูกสุนัขกินลงไปและช่วยไม่ทัน จะทำให้ลูกสุนัขถึงตายได้ เจ้าของต้องมีความละเอียดรอบคอบ 
สังเกตเต้านมเสมอ ถ้าเต้านมมีลักษณะเป็น ไตแข็ง หรือน้ำนมมีสีเป็นหนอง ควรนำแม่สุนัขไปพบแพทย์ตรวจรักษา จะได้แก้ไขตั้งแต่ระยะแรก จะช่วยให้การสูญเสียลูกสุนัขเกิดขึ้นน้อย